วันอาทิตย์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2557

♥ มาตรฐานการจัดการสื่อ ♥


ข้อคำถาม
         จงเขียนแสดงทัศนะเกี่ยวกับมาตรฐานการจัดการสื่อ กรณีศึกษาประเทศไทย เปรียบเทียบกับประเทศกลุ่มภูมิภาคอาเซียนและประเทศในกลุ่มยุโรป (หากมีการอ้างอิงเนื้อหาบางส่วนบางตอน หรือสถิติจากแหล่งใด โปรดทำการอ้างอิงให้ถูกต้องตามรูปแบบด้วย

♥☺♥  ตอบ
จุดประสงค์ ISO สื่อ
          - ช่วยองค์กรสื่อพัฒนาระบบการจัดการ เพิ่มคุณภาพเนื้อหาสาระ
          - มีขั้นตอนการปรับปรุงระบบการจัดการอย่างต่อเนื่อง เพื่อประโยชน์คนอ่านและผู้ที่ส่วนร่วมอื่นๆ
          - สื่อทุกประเภททุกความคิดต้องทำตามข้อบังคับและคุณสมบัติกำหนดไว้
          - สื่อไม่รับการตรวจสอบคือสิ่งตีพิมพ์ลามกและส่งเสริมความเกลียดชัง
          - การตรวจสอบสื่อมีลักษณะเป็นขั้นตอน

องค์กรสื่อมีมาตรฐานคุณภาพสูง
         - มีอิสรภาพ ไม่อยู่ใต้บังคับใคร
         - มีความโปร่งใสเรื่องใครเป็นเจ้าของรวมทั้งสายสัมพันธ์อื่นๆที่จะสามารถกระทบกระเทือนเนื้อหาสาระสื่อ
          - มีคู่มือจริยธรรมสื่อที่ชัดเจน เปิดเผย คนในคนนอกอ่านเข้าใจได้อย่างดี

ระบบการจัดการคุณภาพสื่อมาตรฐานสูงสุด ต้องคำนึงถึงการให้บริการที่ดีต่อ:
        - ผู้อ่านและสาธารณชน
        - สังคมประชาธิปไตยและเพิ่มการไหลเวียนข้อมูลข่าวสาร
        - ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียรวมทั้งพนักงานและคนให้โฆษณา

วัฒนธรรมสื่อในองค์กรควรมีคุณสมบัติดังนี้:
         - มีวิสัยทัศน์และจุดยืนกองบรรณาธิการที่ชัดเจน
         - ต้องรายงานข่าวและข้อเท็จจริงอย่างถูกต้อง
         - มีกลไกชัดเจนในการตรวจสอบความถูกต้องข่าวและการแก้ไขข่าว
         - แยกแยะความคิดเห็นกับข้อเท็จจริง 
         - ตอบสนองเสียงสะท้อนผู้อ่านและผู้มีส่วนได้เสียได้ทางสังคมอย่างรวดเร็วมีประสิทธิภาพ
         - คู่มือจริยธรรมสื่อขององค์กรมีการแจกจ่ายและปฏิบัติกันอย่างทั่วถึง
         - มีการฝึกปรือนักข่าวและการประเมินผลการทำงานที่มีประสิทธิภาพ
         - มีการแบ่งแยกที่ชัดเจนระหว่าง โฆษณากับเนื้อหาสาระสื่อ

ทัศนะคติในการบริหารจัดการมาตรสื่อ 
การบริหารจัดการสื่อในช่วงเข้าสู่ประชาคมอาเซียนอย่างต้องต้องเข้าใจธรรมชาติการเมือง การปกครอง เสรีภาพของแต่ละประเทศ  สื่อในประเทศที่ปกครองโดยคอมมิวนิสต์จะต้องมีความเข้าใจสื่อในประเทศที่เป็นประชาธิปไตยมากว่าสื่อในประเทศที่เป็นประชาธิปไตยเข้าใจสื่อในประเทศที่เป็นคอมมิวนิสต์ สังเกตสมาพันธ์นักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศเทศมีความสัมพันธ์กับสมาคมนักข่าวลาว สมาคมนักหนังสือพิมพ์เวียดนาม เวลาที่องค์กรสื่อเหล่านี้มาไทยจะไม่มีคำถามเกี่ยวกับการทำงานของสื่อมวลชนไทย เพราะเข้าใจดีอยู่แล้ว แต่จะสนในเรื่องเทคโนโลยี การพัฒนาช่องทางการสื่อสาร การพัฒนาด้านการตลาดมากกว่า แต่เวลาสื่อมวลชนไทยไปตั้งคำถามเชยๆ เช่น สื่อวิจารย์รัฐบาลได้หรือไม่ เอกชนเป็นเจ้าของสื่อได้หรือไม่ แสดงให้เห็นว่าสื่อของเราไม่เข้าใจเพื่อนบ้าน
สิ่งที่น่าเป็นห่วงสื่อมวลชนไทยในด้านความเข้าใจสังคม วัฒนธรรม การเมืองของอาเซียน เช่น ลาว ต้องร่าประเด็นอะไร Sensitive อ่อนไหว เรื่องเล็กก็เคยมีปัญหา โดยมีคอมลัมนิสต์ไปลาวก็ฟังไกด์ของลาวตั้งคำถามเชิงอธิบายว่า อยากรู้ว่าคนลาวบ้านไหนมีฐานนะมีอันจะกิจให้ไปดูว่าบ้านหลังนั้นมีสุนัขเยอะหรือเปล่าก็นำไปเขียนเป็นดัชมีความสุขของคนลาวดัชนีความรวยของคนลาวไปเปรียบเทียบกับการเลี้ยงสุนัข ซึ่งเรื่องนี้ลาวไม่พอใจเพราะสังคมลาวถือว่าสุนัขเป็นสัตว์ต่ำขั้นมาก เอามาเทียบกับคนไม่ได้ ลักษณะเช่นนี้ลาวไม่สบายใจ จะไปบอกว่าลาวด้อยกว่าไทยไม่ได้ไปบอกลาวเป็นน้องไทยก็ไม่ได้ เพราะลาวมีอธิปไตย จะไปพูดว่าลาวเป็นน้องเราตลอดเวลา เป็นประเทศบ้านพี่เมืองน้องก็ต้องระมัดระวังไว้ด้วย  โดยเฉพาะการเสนอข่าวขอให้ระมัดระวังเรื่องความรู้สึก
          ยิ่งการนำเสนอข่าวผ่านออนไลน์ยิ่งไปทั่วถึงหมดทุกที่ ที่สำคัญประเทศเพื่อนบ้านรู้ภาษาไทยมากกว่าเราไปรู้ภาษาประเทศเพื่อบ้าน ลาว กัมพูชา ดูละครไทย ย่อมเข้าใจภาษาไทย หนังสือพิมพ์รัศมีกัมพูชาสื่อยักษ์ใหญ่ของกัมพูชา  มีแผนกแปลภาษาไทยให้ให้เป็นภาษากัมพูชา สื่อมวลชนไทยต้องเปลี่ยนวิธีคิดว่าตัวเองเป็นพี่เบิ้มในอาเซียน ความจริงทุกประเทศในอาเซียนมีศักดิ์ มีดีของเขา และความเป็นพื้นบ้านจะทะเลาะกันอย่างไรก็ต้องอยู่ด้วยกันความเป็นประชาคมอาเซียนต้องคิดว่าไม่ใช่แค่เป็นพลเมืองไทย ต้องเป็นพลเมองอาเซียนด้วย การนำเสนอข่าวทุกวันนี้นอกจากให้คนไทยแล้ว ต้องนำเสนอให้คนอาเซียนได้รับทราบด้วย

วันนี้สื่อมวลชนไทยต้องปรับตัวเรื่องภาษา ทุกสื่อต้องให้ความสำคัญอย่างน้อยภาษาอังกฤษต้องเคี่ยวเข็ญหากไม่ชอบจริงๆ ก็ต้องภาษาบาฮาซา ซึ่งมีคนใช้ร่วม 300 ล้านคน ภาษาเวียดนาม มีคนใช้ 90 ล้านคน ภาษาเมียร์มานมีคนใช้ 50 ล้านคน ดั้งนั้นภาษาอาเซียนก็ทำให้สื่อมวลชนนำเสนอข่าว เข้าใจประเทศเพื่อบ้านมากขึ้น ต่อไปนี้สื่อมวลชนต้องมีผู้เชียวชาญแต่ละประเทศมาประจำกองบรรณาธิการ จะได้นำเสนอข่าวอาเซียนได้ถูกต้อง


ระบบการปกครองของแต่ละประเทศเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เสรีภาพสื่อไม่อยู่ในระดับเดียวกัน การแสดงความคิดเห็นของแต่ละประเทศไม่เท่ากันเมื่อไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันก็กระทบต่อการเข้าถึงข้อมูลของประชาชนในประเทศนั้นๆ เป็นอุปสรรคต่อการเตรียมความพร้อมของประชาชนสู่ประชาคมอาเซียน เพราะเมื่อเสรีภาพสื่อไม่อยู่ระดับเดียวกัน บางเรื่องไทยนำเสนอข่าวใหญ่โต แต่ประเทศอื่นไม่นำเสนอข่าวเลย คงจำกัดได้เมื่อปี 2540 ไทยเกิดวิฤตเศรษฐกิจ  เรามีปัญหาเพราะไม่มีระบบข้อมูลความรู้เกี่ยวกับระบบการคลังของประเทศเพื่อนบ้านการขาดความรู้ทำให้ไม่สามารถออกมาตรการป้องกันได้ ไทยถึงเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ การเข้ถึงข้อมูลประเทศประชาคมอาเชียนที่จำกัดทำให้ไทยไม่สามารถสร้างมาตรการป้องกันเมื่อเจอวิกฤต อาจเป็นวิกฤตเกี่ยวกับการเงิน เกี่ยวกับภัยธรรมชาติ โรคระบาด หากเข้าถึงข้อมูลด้านต่างๆ พอเกิดวิกฤตในประชาคมอาเซียนเราสามารถเรียกประชุมผู้นำประเทศเพื่อแถลงตอบโต้ได้ทันควัน
กรอบความร่วมมือด้านสื่อมวลชนถือว่ามีความสำคัญ รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับสารสนเทศในอาเซียนตองร่วมมือสร้างกฎเกณฑ์อำนวยความสะดวกให้เข้าถึงข้อมูลภายในอาเซียน ทั้งกรอบด้านการเมืองและความมั่นคง ด้านเศรษฐกิจ และด้านสังคม วัฒนธรรมเพื่อส่งเสริมการไหลเวียนของข้อมูลและการเข้าถึงข้อมูล ส่งเสริมให้ขาวอาเซียน เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เมื่ออาเซียนจะเป็นหนึ่งเดียวเข้าประชาคมอาเซียนที่สมบูรณ์ สื่อมวลชนต้องมีมาตรฐานเสรีภาพ การเข้าถึงข้อมูล และการแสดงออกอย่างน้อยอยู่ในระดับที่เท่าเทียมกัน แต่ในอาเซียนมีมาตรฐานสื่อ 3 ระดับ ประเทศยุโรปจึงมองเสรีภาพสื่ออาเซียนในภาพลบ ว่าไม่มีเสรีภาพ เช่น เสรีภาพสื่อไทย มีเสรีภาพ 99คดีหมิ่นประมาท 1% สรุปว่าไทยไม่มีเสรีภาพ เป็นการเมืองไม่ตรงกับสภาพความเป็นจริง ดังนั้น สื่อมวลชนต้องเป็นสะพานสร้างความรู้สึกร่วมให้เกิดขึ้นกับประชาชนเกี่ยวกับประชาคมอาเซียนให้ได้



วันพุธที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

การจัดทำเว็บไชต์ mambo

การเพิ่ม Mambo Template

- Site > Template Manager > Site Templates
ถ้าต้องการ Add Template เข้าไปใหม่
New > Upload Package File > Browse เลือก template file . zip ที่เราหามาได้ใหม่ > Upload file & Install
ถ้าชอบใจรูปแบบไหนก็เลือก radio button หน้า template นั้น แล้วกด Default
จะดูผลว่าหน้าตา Web site เราเป็นยังไงก็ Site > Preview > In new window

วันศุกร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ISIL - มาตรฐานตัวบ่งชี้ระหว่างประเทศเพื่อการห้องสมุดและองค์กรที่เกี่ยวข้อง


ISIL  คืออะไร

         SIL เป็นตัวย่อสำหรับ "Standard Identifier ระหว่างประเทศเพื่อการห้องสมุดและที่เกี่ยวข้อง  รหัสนี้ถูกออกแบบมาเพื่อระบุห้องสมุดหอจดหมายเหตุพิพิธภัณฑ์และสถาบันอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
เพื่อป้องกันความเข้าใจผิดที่อาจเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของชื่อสถาบันการศึกษาหรือสายพันธุ์จากภาษาที่แตกต่างของชื่อเช่นเดียวกับการสร้างมาตรฐานทั่วโลก
เพื่ออำนวยความสะดวกในการติดต่อสื่อสารและการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เข้าร่วมทั้งหมดในเขตข้อมูลนี้

โครงสร้างของ   ISIL

ISIL เป็นตัวระบุความยาวตัวแปร ISIL ประกอบด้วยสูงสุด 16 ตัวอักษรโดยใช้ตัวเลข (เลขอารบิค 0-9), ตัวอักษรที่ไม่มีการปรับปรุงจากพื้นฐานอักษรละตินและพิเศษโซลิดัเครื่องหมาย (/) ยัติภังค์ลบ (-) และลำไส้ใหญ่ (:) อักษรละตินแก้ไขด้วยหนึ่งหรือมากกว่าหนึ่งกำกับและตัวอักษรจากตัวอักษรอื่น ๆ นอกเหนือจากภาษาลาตินไม่สามารถใช้ใน ISIL ระบุ ISIL แต่ละคนจะไม่ซ้ำกันเมื่อปกติบุคลิกของตัวละครที่ระบุไว้ในมาตรฐาน ISO / IEC-10646-1 โดยไม่คำนึงถึงกรณีที่ ก็หมายความว่าเช่น FI-HT ออก FI-HT และย้อนกลับ 
ISIL ถูกสร้างขึ้นโดยสององค์ประกอบคำนำหน้าและระบุหน่วยในลำดับที่แยกจากกันโดยยัติภังค์ลบ ยัติภังค์ลบเป็นตัวละครที่บังคับใช้ในสตริง ISIL



แห่งชาติ ISIL หน่วยงานจัดสรรและรหัสประเทศคำนำหน้าสำหรับตัวระบุ
ARสาธารณรัฐอาร์เจนตินาอาร์เจนตินามาตรฐานและการรับรองสถาบัน (IRAM)n / a
ATออสเตรียตายÖsterreichische Bibliothekenverbund und Service GmbHค้นหา
ออสเตรเลียออสเตรเลียห้องสมุดแห่งชาติออสเตรเลียค้นหา
พ.ศ.ประเทศเบลเยียมหอสมุดหลวงแห่งเบลเยียมค้นหา
โดยเบลารุสห้องสมุดแห่งชาติของเบลารุสn / a
CAแคนาดาหอสมุดและจดหมายเหตุแคนาดาค้นหา
CHประเทศสวิสเซอร์แลนด์สวิสหอสมุดแห่งชาติค้นหา
CYไซปรัสไซปรัสมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี - ห้องสมุดรายการ
DEประเทศเยอรมันStaatsbibliothek ย่านเบอร์ลินค้นหา
DKเดนมาร์กหน่วยงานที่เดนมาร์กวัฒนธรรมรายการ
EGอียิปต์วิทยาศาสตร์แห่งชาติอียิปต์และเครือข่ายข้อมูลทางเทคนิค (ENSTINET)ค้นหา
FIฟินแลนด์ห้องสมุดแห่งชาติของฟินแลนด์ค้นหา
FRฝรั่งเศสสำนักข่าว Bibliographique De L'Enseignement Superieurค้นหา
GBสหราชอาณาจักรหอสมุดแห่งชาติอังกฤษn / a
GLเกาะกรีนแลนด์ภาคกลางและห้องสมุดประชาชนของเกาะกรีนแลนด์รายการ
ILอิสราเอลห้องสมุดแห่งชาติของอิสราเอลรายการ
IRสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านหอสมุดและจดหมายเหตุของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านอิหร่านแห่งชาติค้นหารายชื่อ
ไอทีอิตาลีสถาบัน Centrale ต่อ IL คู่มือบัตรยูนิโก้ delle biblioteche Italiane อีต่อ Le รายละเอียด bibliograficheค้นหา
JPญี่ปุ่นห้องสมุดสภานิติบัญญัติแห่งชาติรายการ
KRสาธารณรัฐเกาหลีห้องสมุดแห่งชาติเกาหลีค้นหา
LUลักเซมเบิร์กหอจดหมายเหตุแห่งชาติเดอลักเซมเบิร์กรายการ
NLเนเธอร์แลนด์Koninklijke Bibliotheek ห้องสมุดแห่งชาติของประเทศเนเธอร์แลนด์n / a
NOนอร์เวย์ห้องสมุดแห่งชาติของนอร์เวย์ค้นหา
นิวซีแลนด์นิวซีแลนด์ห้องสมุดแห่งชาตินิวซีแลนด์ Te Puna Matauranga o รัวค้นหา
QAกาตาร์หอสมุดแห่งชาติกาตาร์ (Qnl)ค้นหา
RUสหพันธรัฐรัสเซียห้องสมุดประชาชนแห่งชาติของรัสเซียสำหรับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีn / a
SIสาธารณรัฐสโลวีเนียหอสมุดแห่งชาติและมหาวิทยาลัยรายการ
ประเทศสหรัฐอเมริกาสหรัฐอเมริกาหอสมุดแห่งชาติ - ภายใต้การลงทะเบียนn / a
ไม่ใช่ชาติ ISIL หน่วยงานจัดสรรและรหัสคำนำหน้าสำหรับตัวระบุ
Mหอสมุดแห่งชาติ - นอกสหรัฐอเมริกาหอสมุดแห่งชาติ - ภายใต้การลงทะเบียนn / a
Oรหัส O (จดหมาย) สำหรับ OCLC สำหรับการเข้ารหัสทางเทคนิคในแท็ก RFID เช่นดู OCLC-
OCLCWorldCat สัญลักษณ์OCLCค้นหาค้นหา
ZDBStaatsbibliothek ย่านเบอร์ลิน - ZeitschriftendatenbankStaatsbibliothek ย่านเบอร์ลินค้นหา



ที่มา :
http://biblstandard.dk/isil/structure.htm
http://biblstandard.dk/isil/index.htm
http://dspace.muni.cz/bitstream/ics_muni_cz/989/1/ISILv5.pdf

วันพฤหัสบดีที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

DOI ย่อมาจาก Digital Object Identifier

ความหมาย

          ความหมายของ DOI : Digital Object Identifier  คือ ตัวระบุวัตถุดิจิทัล (ดีโอไอ) เป็นตัวบ่งชี้ทรัพยากรสารสนเทศดิจิทัล หรือทรัพยากรสารสนเทศอิเล็กทรอนิกส์ หรือเอกสารดิจิทัล และทรัพย์สินทางปัญญาอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ หรือเอกสารที่อยู่ในฐานข้อมูล หรือบนอินเตอร์เน็ตทั้งหลาย เอกสารที่อยู่บนอินเตอร์เน็ตใดที่มีหมายเลข DOI แล้ว จะเป็นลิงค์ที่ไม่ตาย ผู้ค้นจะสามารถค้นหาพบเสมอ ถึงแม้ว่า เว็บไซต์นั้นจะถูกยกเลิกการใช้ไปแล้วก็ตาม 
          โดย DOI ทำหน้าที่เป็นรหัสทรัพยากรสารสนเทศดิจิทัล  หากจะเปรียบเทียบกับสิ่งตีพิมพ์ ก็เหมือนกับหมายเลข ISBN ของหนังสือ หรือ ISSN ของวารสาร    แต่มีความแตกต่างที่ รหัสทรัพยากรสารสนเทศ หรือ DOI  มีความซับซ้อนมากกว่า โดยมีเทคโนโลยีที่สามารถเชื่อมโยงไฟล์ทรัพยากรสารสนเทศดิจิทัลจากรหัส DOI  ได้  มีการจัดการฐานข้อมูล metadata และการอ้างถึง แต่เลข ISBN และ ISSN ไม่สามารถทำได้ ซึ่งตัวระบุวัตถุดิจิทัล (ดีโอไอ) นั้นเป็นตัวบ่งชี้ถาวรของทรัพยากรสารสนเทศดิจิทัล (Permanent Identifier) หรือ Persistent Identifier โดยรหัสนี้จะไม่เปลี่ยนแปลงไปตามสถานที่ที่ใช้จัดเก็บ (Location) หรือสิทธิการเป็นเจ้าของทรัพยากรสารสนเทศนั้น และปัจจุบันได้รับมาตรฐานสากล ISO 26324: 2012 Information and documentation แล้ว

ประวัติความเป็นมา

  ตัวระบุวัตถุดิจิทัล (ดีโอไอ)  หรือ DOI เกิดจากความร่วมมือของสมาคมสำนักพิมพ์แห่งสหรัฐอเมริกาที่ต้องการมาตรฐานการให้รหัสของเอกสารดิจิทัล ร่วมกับองค์กรต่างๆ เช่น International Publishers Association; International Association of Scientific,Technical and Medical Publishers; Association of American Publishers โดยได้ก่อตั้งองค์กรที่ไม่แสวงหากำไรเรียกว่า มูลนิธิ DOI เรียกว่าThe International DOI® Foundation (IDF) ในปี 1977
         ต่อมา IDF ได้ทำงานร่วมกับองค์กร CNRI ( Corporation for National Research Initiatives) ในการพัฒนาระบบ Handle System เพื่อใช้เป็นองค์ประกอบสำคัญทางเทคนิคของระบบ DOI 
ในปีต่อมาคือ 1998-2000 IDF ร่วมกับ Indecs project ได้กำหนด Indecs framework เป็น Data model  องค์กรที่เป็น Registration Agency แห่งแรกเริ่มขึ้นในปี 2000 โดยการเชื่อมโยงบทความวารสารเรียกว่า CrossRef Registration Agency
ส่วน DOI syntax เป็นมาตรฐาน ISO ตาม A National Information Standards Organization (US) standard, ANSI/NISO Z39.84-2010 ต่อมาระบบ DOI ได้รับการรับรองเป็นมาตรฐานสากล  ISO 26324:2012 : Information and Documentation ในปี 2012
  สำหรับประเทศไทย การนำตัวระบุวัตถุดิจิทัล (ดีโอไอ) มาใช้งาน เริ่มมีการดำเนินการไปแล้ว โดยสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ได้สมัครสมาชิกเป็นผู้บริหารจัดการตัวระบุวัตถุดิจิทัล (ดีโอไอ) ด้านการวิจัยของประเทศกับ DataCite ซึ่งเป็น Registration Agencies (RA) และได้รับการยอมรับจากที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปีของ DataCite ให้เป็นสมาชิกเต็มรูปแบบลำดับที่ 17 เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2555

  สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ได้มีหนังสือไปยังราชบัณฑิตยสถานเพื่อสอบถามศัพท์บัญญัติของ Digital Object Identifier (DOI) โดย ที่ประชุมคณะกรรมการการจัดทำพจนานุกรมศัพท์คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศของราชบัณฑิตยสถาน พิจารณามีมติให้บัญญัติศัพท์ว่า “ตัวระบุวัตถุดิจิทัล (ดีโอไอ)”

องค์ประกอบของระบบ DOI

         องค์ประกอบของระบบ DOI  ประกอบด้วยการทำงานของ 4 ส่วนหลักร่วมกัน ได้แก่
         1. Numbering  Schema หรือ Syntax   โดยประกอบไปด้วยสองส่วน  คือ Prefix   และ Suffix
                  Prefix คือ คำนำหน้าชื่อของตัวระบุวัตถุดิจิทัล (ดีโอไอ)  โดยทุกรหัสต้องขึ้นต้นด้วยหมายเลข 10 เสมอและถูกระบุตามลำดับที่ได้รับจากการสมัครสมาชิกกับ Registration Agencies (RA)
    • Suffix คือ ส่วนที่สองของตัวระบุวัตถุดิจิทัล (ดีโอไอ)  ซึ่งใช้ระบุตัวตนของทรัพยากรสารสนเทศดิจิทัล โดยหน่วยงานที่เป็นสมาชิกเป็นผู้กำหนด หรือหน่วยงานที่ทำข้อตกลงร่วมกับหน่วยงานที่เป็นสมาชิกเป็นผู้กำหนดภายใต้ข้อตกลงกับหน่วยงานที่เป็นสมาชิก หรือผู้ที่ลงทะเบียนขอรหัสเป็นผู้กำหนด และส่วน Suffix สามารถใช้งานร่วมกับเลขมาตรฐานสากลอื่นๆ เช่น ISBN หรือ ISSN ได้
ตัวอย่างตัวระบุวัตถุดิจิทัล (ดีโอไอ)

    •  10.200/1123.56.87
    • 10.3000/ISBN.974-572-862-8
    • 10.4000/ISSN.1953-8745
    • 10.5000/NRCT.2012.01.06.77895
          2. Policies   โดยใช้ business model  ของแต่ละ registration agencie การกำหนดนโยบายและโมเดลทางธุรกิจนั้นอยู่กับรูปแบบและวัตถุประสงค์ในการก่อตั้งแต่ละ Registration Agency  ของ DOI  เพื่อให้มีความสอดคล้องกัน  ยกตัวอย่างเช่น  CrossRef  เป็น RA ที่เน้นให้บริการของหมายเลข DOI  ทางด้านงานวิจัย  วารสาร  ดังนั้นนโยบายและโมเดลทางธุรกิจ จึงมุ่งเน้นทางด้านการให้บริการการค้นหาฐานข้อมูลงานวิจัย  มีระบบสนับสนุนทางด้านการซื้อขายเอกสารผลงานวิจัย
          3. Internet Resolution 
การทำ Resolution  เป็นขั้นตอนการป้อน DOI name เข้าสู่ระบบ DOI  และทำให้ได้ DOI  Resolution Record
4. Data Model เป็น Metadata Tool  ประกอบด้วย Data  Dictionary  และ Framework Data Model คือ โครงสร้างของข้อมูลที่ใช้อธิบาย และจัดการข้อมูล ความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูล และข้อบังคับของข้อมูลในระบบมาตรฐาน ISO 26324 กล่าวว่าพจนานุกรมข้อมูล (Data  Dictionary) ที่ใช้เป็นพื้นที่เก็บข้อมูลสำหรับองค์ประกอบทั้งหมดของข้อมูลและค่าอนุญาต (รายการซึ่งอาจจะใช้เป็นค่าของแต่ละองค์ประกอบ) ที่ใช้ใน DOI ข้อกำหนด metadata จะช่วยให้ความหมายภายในอภิปรัชญาขององค์ประกอบทั้งหมด metadata จะสามารถใช้ลงทะเบียนและให้วางแผนเพื่อสนับสนุนการรวมข้อมูลและการเปลี่ยนแปลงที่จำเป็นสำหรับการแลกเปลี่ยนข้อมูล


จะพบเลข DOI [Digital Object Identifier] ได้ที่ไหน?  
         
         ได้จากการค้นหาบทความ เอกสาร/paper เมื่อค้นเจอแล้ว เพียงแค่ copy/จัดเก็บเลข DOI หรือลิงค์ของเลข DOI เอาไว้ท่านก็จะสามารถเข้าถึงเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างรวดเร็ว กรณีที่ค้นหาเอกสารจากเลข DOI ไม่พบก็มีเหมือนกัน ส่วนใหญ่จะเป็นเพราะเอกสารฉบับนั้นเป็นเอกสารหรือบทความที่เพิ่งออกนั่นเอง ต้องรอการ Update ข้อมูลสักเดือนหรือสองเดือนก็จะค้นหาได้ตามปกติ
           แต่อย่างไรก็ตามท่านก็สามารถตรวจสอบรายชื่อสิ่งพิมพ์ที่เพิ่งลงทะเบียนขอเลข DOI ได้เช่นเดียวกัน หรือสามารถค้นหาสิ่งพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์ได้ กรณีลืมเลข DOI โดยตรวจสอบได้จาก www.crossref.org [ดูวิธีตรวจสอบได้ที่นี่]

             ตัวอย่างที่ 1 เลข DOI ของบทความวารสาร ในรูปแบบ PDF หรือบทความฉบับพิมพ



             ตัวอย่างที่ 2 เลข DOI และลิงค์ของบทความวารสาร ในรูปแบบ HTML




วิธีเข้าค้นหาข้อมูลด้วยเลข DOI [Digital Object Identifier] ได้ที่ไหน?  

 

  
    
วิธีที่ 1 เข้าไปที่เว็บไซต์ www.doi.org     
       
1. พิมพ์เลข DOI ลงในช่องว่าง 
เช่น 10.1016/j.aasri.2012.11.004
       2. คลิกที่ Submit
  
  
  
  
 
      3. เมื่อคลิกที่ Submit จะปรากฏบทความวารสารที่ค้นหาดังภาพ
  
  
  
  
  
      วิธีที่ 2 เข้าไปที่เว็บไซต์อะไรก็ได้          1. พิมพ์เลข DOI ลงในช่อง URL โดยให้มี http://dx.doi.org/ นำหน้าเสมอ เช่น http://dx.doi.org/10.1016/j.bbr.2011.03.031
       2. คลิกที่ 
Enter/Search
  
  
  
  
 3. บทความ ผู้ค้นสามารถตรวจสอบเลข DOI ได้ดังภาพ
  
  
  
  
      วิธีที่ 3 เข้าผ่านลิงค์ที่ท่านได้ Copy เอาไว้          1. เปิดโปรมแกรม Microsoft word จากนั้นให้เปิดไฟล์ที่เคย จัดเก็บลิงค์ของบทความหรือเอกสารเเอาไว้             เช่น http://dx.doi.org/10.1016/j.bbr.2011.03.031
       2. กดแป้น 
Ctrl ค้างไว้ จากนั้นให้คลิกที่ลิงค์ http://dx.doi.org/10.1016/j.bbr.2011.03.031
  
  
  
  
 3. บทความ ผู้ค้นสามารถตรวจสอบเลข DOI ได้ดังภาพ
  

ที่มา :  http://www.nrct.go.th/th/doi.aspx